เปิดเทอมทั้งที คุณพ่อคุณแม่แทบหัวหมุนต้องรีบหาค่าใช้จ่ายมารองรับสารพัดค่า ทั้งค่าชุดนักเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเทอม ค่าขนมไปกินที่โรงเรียน ไปจนถึงค่าชุดลูกเสือและเนตรนารี คุณพ่อคุณแม่บ่นกันเป็นประจำว่า จะมีวิชาลูกเสือและเนตรนารีไปทำไม เพราะแทบจะหยิบมาใช้ประโยชน์จริงไม่ได้เลย จนถึงขั้นมองว่า ชุดพวกนี้แพง แต่จะราคาแพงจริงไหมหรือแพงเพราะถูกมองว่าสิ้นเปลือง ลองมานับค่าใช้จ่ายทั้งหมดกัน

ค่าชุดลูกเสือสำรอง – ชุดเนตรนารีสำรอง

สำหรับวัยประถมศึกษาตอนต้นส่วนใหญ่โรงเรียนต่างๆ จะยังไม่ได้ให้นักเรียนสวมใส่ชุดลูกเสือหรือชุดเนตรนารีเต็มยศและจะถูกเรียกว่า ชุดลูกเสือสำรองหรือเนตรนารีสำรองแทน เพราะตามอายุ 8-11 ปีจะอยู่ในกลุ่ม Cub Scout มีค่าชุดลูกเสือสำรองและเนตรนารีสำรองทั้งหมดดังนี้

• หมวก สีกรมท่าขีดเหลือง 50 บาท
• ผ้าผูกคอ สามเหลี่ยมหน้าจั่ว ประมาณ 35-70 บาท
• ว็อกเกิ้ล ติดผ้าพันคอ 10-15 บาท
• เข็มขัด ของค่าชุดลูกเสือจะต้องซื้อเข็มขัดสีน้ำตาลพร้อมหัวเข็มขัด ราคาประมาณ 70-100 บาท ส่วนเนตรนารีสำรองไม่ต้องซื้อ
• เครื่องหมายหมู่ ชิ้นละ 10-15 บาท

ส่วนของค่าชุดลูกเสือสำรองและเนตรนารีสำรองใช้แบบชุดนักเรียนทั่วไป ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม รวมถึงพวกถุงเท้าและรองเท้าด้วย

ค่าชุดลูกเสือสามัญ

พอนักเรียนโตขึ้นมาอีกนิดนึงก็จะเข้าสู่ช่วงเป็นลูกเสือสามัญและลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ซึ่งค่าชุดลูกเสือสามัญจะต่างจากชุดลูกเสือสำรองโดยสิ้นเชิง มีส่วนประกอบทั้งหมดดังนี้

• ค่าชุดลูกเสือเสื้อและกางเกงเป็นสีกากี มีราคาตั้งแต่ 500 ถึง 1,100 บาทขึ้นไป ราคาแยกกันประมาณ 250-650 บาทต่อชิ้น
• ถุงเท้าขายาวสีกากีราคา 45-50 บาท
• รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลแก่ตามแบบชุดลูกเสือ ราคาประมาณ 300- 400 บาท
• เข็มขัด สายหนังและหัวเข็มขัด 70-200 บาท
• ปักชื่อป้ายบนเสื้อ 80 บาท
• หมวก 80 บาท
• ผ้าพันคอ 35-70 บาท
• อุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากค่าชุดลูกเสื้อ เช่น เครื่องหมายหมู่ เข็มติดหมวก เข็มติดหน้าอก ว็อกเกิ้ล ฯลฯ ชิ้นละ 15 บาท
• อินทรธนู 35 บาท

ชุดเนตรนารีสามัญ

ชุดเนตรนารีสามัญก็ต้องเปลี่ยนจากชุดเนตรนารีสำรองโดยสิ้นเชิง ต้องมาใส่เป็นชุดเขียวเต็มยศคล้ายกับค่าชุดลูกเสือสามัญ แต่จะประหยัดกว่า เพราะถุงเท้าและรองเท้าใช้แบบเดียวกับชุดนักเรียนปกติ แต่จะมีสิ่งที่ต้องซื้อเพิ่มดังนี้

• ชุดเนตรนารีสามัญ เป็นชุดเขียวทั้งเสื้อและกระโปรง ราคาทั้งชุด ตั้งแต่ 500 ถึง 1,100 บาทขึ้นไป ราคาแยกกันประมาณ 250-650 บาทต่อชิ้น
• เข็มขัด สายหนังและหัวเข็มขัด 70-200 บาท
• ปักชื่อป้ายบนเสื้อ 80 บาท
• หมวกเนตรนารีสีเขียว 80 บาท
• ผ้าพันคอ 35-70 บาท
• อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องหมายหมู่ เข็มติดหมวก เข็มติดหน้าอก ว็อกเกิ้ล ฯลฯ ชิ้นละ 15 บาท
• อินทรธนู 35 บาท

ค่าอื่น ๆ นอกเหนือจากเครื่องแต่งกาย

นอกจากค่าชุดลูกเสือและเนตรนารีแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ประกอบการเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น

• ค่าไม้พลอง หรือ ไม้ง่าม ความยาว 150 ซม. ราคาประมาณ 75-100 บาท
• ค่าเชือกสีขาว หรือ สีแดง ราคาประมาณ 120 บาท
• ค่ากิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ คนละประมาณ 350 บาท

สรุปแล้วค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าชุดลูกเสือและเนตรนารี ถ้าซื้อครบทั้งเซ็ตจะต้องจ่ายประมาณสองพันกว่าบาทขึ้นไปเลยทีเดียว หลายครอบครัวจึงเลือกเก็บไว้ให้ลูกใส่นานถึงสามปีกว่าจะยอมซื้อใหม่ (เว้นแต่เด็กบ้านไหนที่โตเร็วคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายซื้อใหม่ทุกปี ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยนะ) เพื่อแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่เมื่อถึงคราวลูก ๆ ต้องเปิดเทอม แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้สมัคร ‘บัตรกดเงินสด’ ที่ใช่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตัวคุณ ลดปัญหาหัวหมุนจากภาระค่าใช้จ่ายที่พร้อมถาโถม เมื่อเด็ก ๆ เปิดเทอมสารพัดค่า ทั้งค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน ค่าชุดพละ ค่าชุดลูกเสือและเนตรนารี ค่าอุปกรณ์การเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย สนใจสามารถศึกษารายละเอียดหรือเลือกบัตรกดเงินสดที่ใช่ได้ที่นี่ คลิก!